Freelance Stories : บทที่ 5 รู้จักตัวตนของตัวเอง ก่อนตัดสินใจออกมาเป็น Freelance


ในหัวข้อที่แล้ว เราได้พูดถึงเรื่องของสาเหตุที่ทำให้ Freelance ล้มเหลวตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งหากเรามองดูที่สาเหตุหลักๆแล้ว เราจะพบว่าสิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ และนำไปสู่ปัญหาในเรื่องอื่นๆก็คือ การไม่เข้าใจบุคลิกภาพ และความต้องการของตัวเอง ซึ่งสิ่งนี้จะส่งผลโดยตรงกับ การเลือกงานที่จะทำด้วย เพราะอย่างที่เรารู้กันดี คือ ฟรีแลนซ์ ส่วนใหญ่มักจะเลือกจับงานที่คิดว่าตัวเองถนัด และสนุกกับมันได้มากที่สุด เพราะหากไม่เป็นเช่นนี้แล้วจะกลายเป็นว่า เราเลือกที่จะลาออกจากงานประจำเพื่อมาทำงานที่ต้องฝืนตัวเอง ซึ่งไม่เป็นผลดีทั้งต่อตัวงาน และความรู้สึกของเราอย่างแน่นอน
และแน่นอนว่าในโลกนี้มีวิธีการแบ่งคนออกหลายวิธีการด้วยกัน ซึ่งอีกหนึ่งวิธีการที่เป็นที่นิยมของบรรดาผู้สัมภาษณ์งานก็คือ วิธีการที่เรียกว่า DISC Model ซึ่งเป็นแนวคิดที่เกิดจากการศึกษาลักษณะพฤติกรรม และวิธีการตัดสินใจของมนุษย์ โดยการแบ่งคนออกเป็น 4 ประเภท หรือบางตำราเรียกว่า การแบ่งเป็น 4 ทิศ ซึ่งแต่ละทิศก็จะแทนด้วยชนิดของสัตว์ เพื่อให้ง่ายต่อการจำ
ซึ่งจากการที่ได้ศึกษามาเราจะพบว่าโดยปกติมนุษย์ เมื่อเกิดมาจะมีบุคลิกภาพแบบใดแบบหนึ่ง ใน 4 แบบ ที่ว่า แต่เมื่อเวลาผ่านไป จากประสบการณ์ และสิ่งแวดล้อมที่ต้องอยู่ร่วมด้วย จะหล่อหลอมให้พวกเขามีบุคลิกภาพแบบอื่นๆร่วมด้วย ทำให้ดูเหมือนว่าจะมีความซับซ้อนทางด้านพฤติกรรมและความคิดมากขึ้นกว่าเดิม และบุคลิกแบบต่างๆนั้นมี ดังนี้
บุคลิกภาพแบบ Dominance เมื่อเปรียบเทียบกับสัตว์ ก็คือ ลักษณะของวัวกระทิง สิ่งที่เราจะได้ยินและได้เห็นจากคนประเภทนี้ก็คือ “เป้าหมายมีไว้พุ่งชน” คนประเภทนี้มักจะมีการตัดสินใจที่รวดเร็ว และตรงไปตรงมา พวกเขามักจะทำตัวเป็นขาลุย ที่พร้อมจะบุกในทุกสถานการณ์ ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีที่น่าสนใจทีเดียว แต่ข้อเสียของบุคลิกแบบนี้ก็คือ ความไม่รอบคอบ และไม่ค่อยจะรักษาน้ำใจคน ของพวกเขานี่แหละที่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาเมื่อต้องทำงานกับคนจำนวนมาก
จริงอยู่ว่าการทำงานที่รวดเร็วของบรรดากระทิงหนุ่มสาว ทำให้ธุรกิจ หรืองานที่กำลังทำอยู่สามารถดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว แต่การเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงโดยไม่ศึกษาข้อมูลให้ดีเสียก่อนก็อาจจะทำให้เกิดผลร้ายได้เช่นเดียวกัน ถ้าจะให้เปรียบเทียบ คนที่อยู่ในกลุ่มนี้เมื่อต้องทำงานกับผู้อื่นมักจะเป็นเหมือนขุนพล หน่วยกล้าตาย ที่จะถูกส่งลงไปสนามรบก่อนใครเพื่อนนั่นเอง
การที่คนกลุ่มนี้จะประสบความสำเร็จในการทำงานได้นั้น พวกเขาจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคิดให้มากขึ้น ไม่เสี่ยงโดยที่ไม่มีข้อมูลอย่างเพียงพอ และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องพยายามที่จะสื่อสารกับคนอื่นด้วยท่าทีที่นุ่มนวล และเป็นมิตรมากขึ้น แค่นี้ก็จะทำให้คนกลุ่มนี้กลายเป็นขุมกำลังในการทำธุรกิจทุกอย่างได้อย่างน่าสนใจทีเดียว และด้วยพลังที่คุณมี การเป็นฟรีแลนซ์ไม่ใช่เรื่องที่ยากเลย
บุคลิกภาพแบบ Infulence มักจะเป็นคนที่มองการณ์ไกล มองทุกอย่างเป็นภาพใหญ่ๆเอาไว้ก่อน ชอบความเป็นอิสระเหมือนกับนกอินทรี คนกลุ่มนี้มักจะมองทุกอย่างอย่างเชื่อมโยงกันเหมือนกับการเล่นเกม หรือต่อจิ๊กซอว์ ให้ออกมาเป็นภาพขนาดใหญ่ และจะไม่ลงมือทำอะไรหากยังไม่มีข้อมูล  ซึ่งถือว่าเป็นคนที่มีความรอบคอบอยู่ไม่น้อยทีเดียว
แต่ในขณะเดียวกันข้อเสียของคนที่มีลักษณะของนกอินทรี ก็คือ เป็นคนที่มักจะมองการได้เริ่มงานใหม่ๆเป็นความท้าทาย และเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขารู้สึกว่า งานชิ้นไหนไม่น่าสนใจแล้ว หรือรู้แล้วว่าสุดท้ายงานนั้นจะออกมาเป็นอย่างไร ก็มักจะเกิดอาการเบื่อและไม่อยากทำต่อขึ้นมาทันที ทำให้หลายคนมองว่าคนที่มีบุคลิกแบบนี้มักจะทำงานต่างๆได้ไม่นานนัก หรือเรียกว่า ไม่เป็นชิ้นเป็นอันกันเลยทีเดียว
แต่ด้วยความที่คุณเป็นคนที่ชอบเข้าสังคมอยู่บ้าง ทำให้ลดข้อเสียในหลายๆเรื่องลงไปไม่น้อยทีเดียว เพราะอย่างน้อยหากต้องทำงานใหญ่จริงๆ คุณจะได้รับเลือกจากคนในกลุ่มให้เป็นคนประสานงาน และคอยวางแผนมากกว่าที่จะให้ลงมือทำเอง ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะเป็นงานที่เหมาะสมกับบุคลิกของคุณเองเสียด้วย
บุคลิกภาพแบบ Steadiness คนที่มีบุคลิกแบบนี้มักจะเป็นคนที่รักษาความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ดีทีเดียว เพราะคุณเป็นคนที่ค่อนข้างฟังความคิดเห็นของคนรอบข้างมาก และไม่ชอบที่จะต้องเผชิญหน้ากับความขัดแย้ง ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็คงเหมือนกับ หนู ที่จะไม่กล้าทำอะไรเลย ต้องหลบซ่อนตัวเองอยู่ตลอดเวลา เรียกว่าเป็นคนที่ดูเหมือนมนุษย์สัมพันธ์ดี แต่ขาดความมั่นใจในตัวเองไม่น้อยทีเดียว
แต่ด้วยการตอบสนองความต้องการของคนอื่นอย่างอ่อนโยน และพยายามที่จะหาจุดเชื่อมเพื่อให้ทุกฝ่ายรู้สึกพอใจที่สุดนี่ล่ะ ที่ทำให้หลายคนอยากจะเป็นมิตร และให้ความช่วยเหลือคุณเท่าที่ทำได้ งานที่เหมาะสมกับคนประเภทนี้เห็นจะเป็นงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับการประสานงาน หรือการขาย เพราะเชื่อได้อย่างแน่นอนว่า ความเป็นมิตรของบุคคลเหล่านี้จะส่งผลดีกับงานเหล่านี้อย่างแน่นอน
ข้อเสียของบุคลิกแบบนี้ คือ ความต้องการที่จะให้ทุกคนพอใจในทุกอย่างเป็นเรื่องที่ยาก และอาจจะนำหายนะมาสู่งานของคุณโดยไม่รู้ตัว เพราะงานบางอย่างจำเป็นที่จะต้องใช้ความหนักแน่น และข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากกว่าความพึงพอใจของคนอื่น การยอมรับว่าในบางครั้งเราอาจจะต้องขัดแย้งบ้างเพื่อรักษาผลประโยชน์ขององค์กร หรือของงานที่ต้องทำเป็นสิ่งที่คนประเภทนี้ต้องเรียนรู้
บุคลิกภาพแบบ Compliance บุคลิกแบบนี้มักจะอยู่ในผู้รอบรู้หลายๆคน เพราะคนเหล่านี้มักจะมีความสุขุม จะทำอะไรจำเป็นต้องหาข้อมูลให้รอบคอบเสียก่อน เรียกได้ว่ากว่าจะเริ่มงานแต่ละชิ้น ต้องมีการศึกษามาเป็นอย่างดีว่าจะทำอะไร อย่างไร และผลที่ต้องการควรเป็นอย่างไร เหมือนกับ หมี ที่จะมีช่วงเวลาในการจำศีล และเคลื่อนตัวได้ค่อนข้างช้า แต่มั่นคง และรอบคอบมาก จนบางครั้งอาจจะดูเหมือนมากเกินไปด้วยซ้ำ
แต่ความรอบคอบของคนประเภทนี้ถือว่าเป็นข้อดีทีเดียวสำหรับการทำงานประจำ หรืองานที่ต้องมีการวางแผน หรือปฏิบัติในเรื่องของรายละเอียดปลีกย่อย เพราะโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดจะมีน้อยมากเมื่องานชิ้นนั้นมาอยู่ในมือของคนประเภทนี้
และก็ใช่ว่าจะมีแต่ข้อดี เพราะข้อเสียของคนกลุ่มนี้ก็มีเหมือนกันก็คือ การดูแต่ข้อมูลทำให้เราไม่กล้าที่จะทดลองอะไรใหม่ๆที่อยู่นอกเหนือจากทฤษฎี ทำให้ตัวงานขาดความหลากหลาย หรือความคิดสร้างสรรค์ไป
อย่างที่บอกไปแล้วว่าคนเราไม่จำเป็นต้องมีบุคลิกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น เพราะในคนหนึ่งคนอาจจะมีมุมมองของคนทั้ง 4 แบบนี้รวมกันอยู่ก็ได้ หรือหากมีเพียงบางอย่าง เราก็จำเป็นที่จะต้องนำเอาข้อดีของการเป็นคนในแบบอื่นๆมาใช้กับตัวเองเช่นกัน และนี่จึงทำให้เกิดคนในแบบที่ 5-6 ตามมาก็คือ คนที่เป็นศูนย์รวมของข้อด้อยของบุคลิกทั้งหมด และคนที่เป็นจุดรวมของข้อดีของบุคลิกต่างๆ
ซึ่งเมื่อเราเข้าใจตัวเอง และมองตัวเองออกว่าเป็นคนแบบไหนแล้ว การที่จะประเมินว่ามีโอกาสหรือไม่ที่จะประสบความสำเร็จกับการทำงานฟรีแลนซ์ก็ทำได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *