Freelance Stories : บทที่ 4 เมื่ออาชีพฟรีแลนซ์ ไม่ง่ายอย่างที่คิด



จากหัวข้อก่อนหน้านี้เราจะเห็นว่า คนเริ่มมองว่าฟรีแลนซ์เป็นทางเลือกในการประกอบอาชีพที่น่าสนใจ  และตัดสินใจที่จะเดินเข้ามาทำงานในวงการนี้กันอย่างมากมาย แต่ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม และง่ายดาย เพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่า การเข้ามาทำงานเป็นฟรีแลนซ์นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ยากเลย แต่การที่จะให้ตัวเองอยู่ในวงการได้อย่างมีความสุข และมีงานเป็นประจำ นี่สิเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย

และด้วยเหตุนี้ทำให้เราพบว่าหลายคนที่เข้ามาเป็นฟรีแลนซ์ ได้ถอดใจและกลับไปทำงานประจำกันไม่น้อยทีเดียว ซึ่งเหตุผลที่ทำให้พวกเขาเหล่านั้น ล้มเหลวกับการเป็นฟรีแลนซ์ มีดังนี้

1. การตั้งเป้าหมายที่ผิดพลาด ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการที่เราเลือกทางเดินของตัวเองผิดตั้งแต่แรก และแน่นอนว่าผลของการตั้งเป้าหมายที่ผิดพลาดนี้ ก็มักจะนำพาเราไปสู่จุดที่ล้มเหลวได้ไม่ยากนัก
สำหรับมือใหม่ หรือคนที่คิดว่าจะทำงานฟรีแลนซ์อย่างจริงจัง คุณต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่า ต้องการอะไรจากงานนี้ และความสำเร็จที่ต้องการเป็นแบบไหน ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว คนที่อยากเข้ามาทำงานเป็นฟรีแลนซ์มักจะมองแค่ว่าตัวเอง ต้องการเงิน และอิสระในด้านของเวลา โดยลืมคิดไปว่า กว่าจะได้สิ่งเหล่านี้มานั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด คุณอาจจะต้องใช้เวลาเป็นระยะเวลาที่มากพอสมควร ที่จะได้รับการยอมรับจากลูกค้า และมีงานเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งในช่วงนี้เอง คนที่มองไปที่ตัวเงิน และความสะดวกสบาย มักจะรู้สึกว่า นี่ไม่ใช่แนวทางที่ตนเองต้องการ และสุดท้าย คนเหล่านี้ก็จะมองว่า ฟรีแลนซ์ เป็นเพียงการขายฝัน ซึ่งทำไม่ได้จริง ทั้งที่จริงๆแล้วไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย
ดังนั้น ก่อนที่จะวางเป้าหมายในการทำอาชีพฟรีแลนซ์ สิ่งที่คุณควรรู้คือ การเป็นฟรีแลนซ์อาจจะมีอิสระก็จริง แต่ก็มีสิ่งที่คุณต้อง แลกมาไม่น้อยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลา และสุขภาพ รวมไปถึงการต้องเจอกับคนอีกหลายประเภท ซึ่งหากคุณเป็นคนที่คิดแค่ว่า การเป็นฟรีแลนซ์ จะทำงานตอนไหนก็ได้ อยากได้ลูกค้าแบบไหนก็ได้ หรือแม้กระทั่ง คนที่มองว่าการทำฟรีแลนซ์ คือ หนทางแห่งความร่ำรวยอย่างรวดเร็ว นี่อาจจะเป็นเป้าหมายที่ไม่ถูกต้องมากนัก เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงภาพภายนอกที่คนอื่นมองเข้ามา
และหากคุณไม่ได้รู้สึกว่า รัก หรือสนุกกับสิ่งที่ทำอยู่ เพียงแต่ทำงานไปวันๆ เพราะต้องการเงินมาใช้จ่าย การกลับไปทำงานประจำน่าจะตอบสนองต่อเป้าหมายของคุณมากกว่าด้วยซ้ำ

2. การไม่รู้จักวางแผน การวางแผนสำหรับฟรีแ ลนซ์ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการที่จะทำงานให้ทันต่อเวลาที่จำกัด ซึ่งในจุดนี้เองที่เราจะพบว่าฟรีแลนซ์มือใหม่มักจะตื่นเต้นกับงานที่เข้ามา และรีบเร่งในการรับงานมาทำจนลืมนึกไปว่า งานที่รับมานั้นจะทำได้ทันตามกำหนดหรือไม่
ซึ่งในแต่ละงานที่รับมาทำนั้น ควรที่จะมีการประเมินความยากง่าย และเวลาที่คาดว่าจะทำเสร็จให้แน่นอนจะดีกว่า แต่อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นฟรีแลนซ์ที่พึ่งเข้ามาในวงการ และยังไม่มีเพื่อน หรือคนที่ช่วยทำงานได้ ควรใช้วิธีเลือกรับทีละงาน แล้วทำให้เสร็จก่อนที่จะรับงานอื่น เพราะสำหรับฟรีแลนซ์แล้ว การทำงานให้เสร็จทันตามกำหนดเวลา ถือว่าเป็นการสร้างเครดิตให้กับตัวเองไปในตัวด้วย
และเราจะพบว่าจำนวนงานที่เข้ามามากมาย หากไม่มีการวางแผนการทำงานให้เป็นระบบอาจจะทำให้ต้องเหนื่อยมากกว่าคนที่ทำงานประจำด้วยซ้ำ และนอกจากการแบ่งเวลาสำหรับงานที่ต้องทำแล้ว การวางแผนแบ่งเวลาสำหรับการพักผ่อน และดูแลตัวเองให้มากขึ้น เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน
ฟรีแลนซ์มือใหม่ มักจะให้ความสำคัญกับการทำงานมากเกินไป ซึ่งมักจะเป็นในช่วงแรกๆเท่านั้น การไม่วางแผนการใช้ชีวิต และการทำงานให้ดีจะทำให้เวลาพักผ่อนที่น้อยลงอยู่แล้วหายไปอย่างน่าเสียดาย และทำให้เรารู้สึกว่างานที่ต้องทำนั้นหนักเกินไป จนท้อแท้ และสุดท้ายก็เลิกเป็นฟรีแลนซ์เองในที่สุด เพราะดูเหมือนว่าการถูกจำกัดเวลาในการทำงานของพนักงานประจำอาจจะเหมาะกับคนที่ไม่อยากวางแผนในการใช้ชีวิตให้วุ่นวายมากกว่า

3. ไม่มีคอนเน็คชั่น ไม่ว่าจะเป็นการทำงานประจำ หรือเป็นฟรีแลนซ์ก็ตาม การมีคอนเน็คชั่น หรือเครือข่ายในการทำงาน จะช่วยให้เราทำงานได้อย่างง่ายดายมากขึ้น ซึ่งสำหรับคนที่ทำงานประจำการสร้างคอนเน็คชั่นไม่ใช่เรื่องยากเลย เพราะวิธีการทำงานของพนักงานประจำนั้น ต้องเจอกับคนในแผนกที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของตัวเองเป็นประจำ ทำให้เกิดความสนิทสนมกันได้ง่าย
แต่สำหรับคนที่เป็นฟรีแลนซ์แล้ว แตกต่างกันออกไป เพราะฟรีแลนซ์บางคนแทบจะไม่ได้ออกไปจากห้องพัก หรือหน้าคอมพิวเตอร์เลย โอกาสที่จะได้มีปฎิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นจึงน้อยลงตามไปด้วย วึ่งในจุดนี้เองที่ทำให้การสร้างคอนเน็คชั่นทำได้ยากกว่า คนทำงานประจำ
และการไม่มีคอนเน็คชั่นนี่แหละที่มักจะก่อปัญหาให้กับฟรีแลนซ์หน้าใหม่  เพราะนอกจากจะไม่มีคนคอยช่วยซัพพอร์ตเวลาทำงาน หรือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินแล้ว โอกาสในการได้รับการจ้างงาน และความไว้วางใจจากผู้จ้างงานยังมีน้อยกว่าฟรีแลนซ์ที่เป็นที่รู้จักของทั้งลูกค้า และฟรีแลนซ์ด้วยกันเอง อีกด้วย

4. ไม่อึดมากพอสำหรับการทำงาน ฟรีแลนซ์อาจจะดูเหมือนว่าทำงานสบาย แต่ความเป็นจริงคุณต้องมีความอดทนมากพอตัวทีเดียว เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงานที่มักจะเข้ามาในเวลาที่ไม่คาดคิด หรือการที่ต้องเผชิญกับลูกค้าหลายรูปแบบ หากไม่มีความอดทนมากพอ งานฟรีแลนซ์จะเป็นงานที่ทำให้พวกคุณเป็นทุกข์ อย่างคาดไม่ถึงทีเดียว
เพราะนอกจากเวลาทำงานที่ไม่เหมือนกับพนักงานประจำที่มีวันหยุดตายตัวแล้ว บางครั้งลูกค้าอาจจะติดต่อมาในเวลาที่ไม่ใช่เวลาทำงานปกติ และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ หากมีงานเร่ง การทำงานของฟรีแลนซ์จะต้องรีบเร่ง ทำให้ต้องทำงานอย่างต่อเนื่องจนพักผ่อนไม่เพียงพอได้
หรือหากต้องแก้ไขงาน บ่อยครั้ง หากมีความอดทน หรือความอึดไม่มากพอก็อาจจะทำให้รู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจได้ความอึดจึงมีความจำเป็นมากสำหรับคนที่รักจะทำงานฟรีแลนซ์เป็นอย่างมาก ซึ่งในจุดนี้หากไม่ทำความเข้าใจก็อาจจะทำให้รู้สึกว่าเป็นการทำงานที่หนักจนทนไม่ไหว ก็เป็นได้
5. ความไม่เข้าใจตัวเอง ข้อนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับการเป็นฟรีแลนซ์กันเลยทีเดียว เพราะหากเราไม่เข้าใจ และมองไม่เห็นความต้องการ และความสามารถของตัวเอง การจะทำงานในสายงานที่ต้องพรีเซนต์ และนำเสนอความสามรถของตัวเอง ด้วยตัวเอง อย่างฟรีแลนซ์เป็นเส้นทางที่ไม่ง่ายเลย
แต่ก็น่าแปลกเมื่อเรื่องนี้กลับกลายเป็นเรื่องที่หลายคนเลือกที่จะมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย เพียงเพราะมองว่าการเป็นฟรีแลนซ์เพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินในการใช้จ่ายต่างๆเท่านั้น ซึ่งความคิดนี้ถือว่าไม่ถูกมากนัก เพราะงานของฟรีแลนซ์บางครั้ง ก็อาจจะไม่ได้ทำงานที่ตัวเองถนัดเท่าไหร่นัก หากเราไม่เข้าใจตัวเอง ก็จะไม่สามารถที่จะนำความสามารถที่มีอยู่ในตัวเองออกมาทำงานได้
แต่การจะเข้าใจตัวเองนั้น สำหรับบางคนถือว่าเป็นเรื่องที่ยากทีเดียว ซึ่งในจุดนี้เองที่เราอยากจะให้คุณตั้งใจในการฟังสัมมนาในครั้งนี้ให้ดี เพราะมีหลายอย่างทีเดียวที่จะให้เราได้ทดลองเพื่อที่จะค้นพบบุคลิกภาพที่แท้จริง รวมไปถึงความต้องการของเรามากกว่าเดิม ทำให้ง่ายต่อการที่จะมาค้นหาว่าตัวเองมีความต้องการที่จะทำงานอย่างไร เพื่อที่จะได้พัฒนาตัวเองได้อย่างถูกต้องในเวลาที่รวดเร็ว
จริงอยู่ว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นอุปสรรคที่สำคัญในการทำงานของฟรีแลนซ์มือใหม่จนทำให้หลายคนต้องล่าถอยกลับไปสู่คอมฟอร์ดโซน หรือการทำงานประจำอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในจุดนี้เองหากได้รับการชี้แนะอย่างถูกต้องแล้ว ก็จะทำให้หลายคนมีความมั่นใจที่จะทำงานในวงการฟรีแลนซ์ได้อย่างเต็มความสามารถของตัวเองได้อย่างแน่นอน ซึ่งในเรื่องนี้เราจะนำเสนอในหัวข้อถัดไป ให้ได้ศึกษากัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *